top of page
Search

ตามรอยวัฒนธรรมมุสลิมเปอร์เชียในสยามจากภาษาและวรรณกรรมไทย

  • Writer: Paramait Wichaidit
    Paramait Wichaidit
  • May 28
  • 1 min read

ree

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. กุสุมา รักษมณี

ราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชาวรรณคดีเปรียบเทียบ ราชบัณฑิตยสภา 

นำเสนอครั้งแรกในงานประชุมวิชาการมุสลิมศึกษาระดับชาติ ครั้งที่ 1 ภายใต้หัวข้อ "การเปลี่ยนของสังคมมุสลิมในสังคมไทย ในรอบ 100 ปี" วันที่ 18 ตุลาคม 2566 ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จัดโดย ศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา ร่วมกับเครือข่ายทางวิชาการ


บทนำ

วัฒนธรรมมุสลิมเปอร์เชียในที่นี้หมายถึงวัฒนธรรมชาวเปอร์เชียในยุคอิสลามเมื่อเปอร์เชียตกอยู่ใต้การปกครองของราชวงศ์อุมัยยะห์ (ค.ศ. 661-750) ของมุสลิมอาหรับ มีอาณาจักรตั้งแต่ แอฟริกาเหนือ อียิปต์ ซีเรีย อาระเบีย เมโสโปเตเมีย อิหร่าน เตอร์กิสถานตะวันตก อัฟกานิสถาน และส่วนหนึ่งของอินเดีย ต่อมาระหว่าง ค.ศ. 750-1258 เปอร์เชียมีราชวงศ์อับบาซีย์ของมุสลิมเป็น ผู้ปกครอง รวมทั้งราชวงศ์ท้องถิ่นต่าง ๆ ทางตะวันออก เช่น ซามานีย์ ศ็อฟฟารีย์ มาจนถึงราชวงศ์ เศาะฟะวีย์ (ค .ศ . 1501-1736 ) ซึ่งเปอร์เชียมีความเจริญทั้งด้านการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ ศาสนา วัฒนธรรม และศิลปกรรม แบบแผนศิลปกรรมในสมัยนั้นได้ส่ง อิทธิพลไปยังอินเดีย ทั้งในจักรวรรดิโมกุลและรัฐอิสระต่าง ๆ โดยเฉพาะรัฐสุลต่านแห่งเดคคาน (Deccan) ซึ่งนำรูปแบบศิลปวัฒนธรรมเปอร์เชียไปประยุกต์จนเกิดแบบแผนที่เรียกว่าศิลปวัฒนธรรม แบบอินโด-เปอร์เชีย

วัฒนธรรมมุสลิมเปอร์เชียมี “แดนวัฒนธรรม” ที่ปราศจากพรมแดนซึ่งได้แผ่ขยายครอบคลุม ไปทั่วเอเชียตะวันตก เอเชียกลาง และเอเชียใต้โดยไม่จ ากัดภูมิหลังทางชาติพันธุ์หรือความเชื่อทาง ศาสนา ร่องรอยของวัฒนธรรมมุสลิมเปอร์เชียปรากฏอยู่ในรูปแบบและคำเรียกเสื้อผ้าอาภรณ์ ข้าว ของเครื่องใช้ อาหารการกิน และเครื่องปรุงรสปรุงสุคนธ์ รวมทั้งผลงานศิลปะและ วรรณกรรม บทความนี้จะกล่าวเฉพาะร่องรอยของวัฒนธรรมมุสลิมเปอร์เชียในแผ่นดินสยามโดย พิจารณาจากหลักฐานในภาษาและวรรณกรรมไทย 




 
 
 

Comments


bottom of page